จากอดีตถึงปัจจุบัน ดินแดนแห่งเมือง ๕ ภาษา ดินแดนแห่งความแร้นแค้น ดินแดนที่ได้ชื่อว่าต้องตำน้ำกิน จากกระทู้ของคุณ ฟ้าสีหมอก
ผมเป็นคนบุรีรัมย์ อยู่บุรีรัมย์มาตั้งแต่เด็ก ในอดีตเมืองเล็กๆ แห่งนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจากปราสาทหินที่ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขา และภูเขาไฟที่มอดสนิทมานับล้านปี ประชาชนในจังหวัดก็มีความหลายหลาย ในตลาดสมัยก่อนจะพบเห็นชาวบ้านนุ่งสวมผ้าโจงกระเบนสีสันสดใส พูดส่งสำเนียงที่ชินหูซึ่งแม้จะฟังไม่ออกก็ตาม ....
การพัฒนาของบุรีรัมย์เป็นไปอย่างช้าๆ เมื่อเทียบกับจังหวัดรอบข้างเช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี หรือนครราชสีมา บุรีรัมย์ไม่มีห้างขนาดใหญ่นอกจากห้างทวีกิจ ซึ่งเป็นห้างติดแอร์ห้างแรกของจังหวัด เวลาจะไปเที่ยวห้างใหญ่ๆ ก็มักจะไปที่โคราชหรือสุรินทร์แทน
หากใครเป็นคนบุรีรัมย์แล้วคงจะคุ้นชินและคุ้นเคยกับโรงโม่หินต่างๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง และแน่นอนโรงโม่หินที่ตั้งอยู่ที่มุมโค้งซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดีว่าเป็นของตระกูลนักการเมือง ตรงข้ามกับโรงโม่หินจะมีลานกว้างๆ ที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรนอกจากเอาไว้จัดเลี้ยงตามโอกาสต่างๆ ของผู้ที่เป็นเจ้าของ นอกเหนือจากนั้นก็ใช้เป็นสนามหัดขับรถ หรือที่สำหรับเลี้ยงวัวและควาย
เรื่องของการเมืองก็คือการเมือง ในเมืองเองก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบปะปนกันไป ส่วนผมเองไม่เคยลงคะแนนให้เลยซักครั้ง และไม่ได้คิดจะสนใจอะไรไปมากกว่านั้น ในส่วนของความนิยมชมชอบของผู้คนก็ไม่เด่นชัดนัก
เวลาผ่านไปจนถึงวันหนึ่ง บุรีรัมย์เริ่มมีทีมฟุตบอลเป็นของตัวเอง แม้ว่าจะไม่ได้จัดตั้งขึ้นมาเองตั้งแต่เริ่มแรกก็ตาม ช่วงนั้นเสียงวิจารย์ต่างๆ ช่างมากมายล้นเหลือ แม้แต่ผู้คนภายในจังหวัด ซึ่งมองภาพอนาคตไม่ออกว่า ทำไปเพื่ออะไร ???? ทำแล้วจะได้อะไร ????
ในช่วงแรกๆ ที่แข่งขันกันนั้น กองเชียร์ต่างๆ ที่เข้าไปเชียร์มาจากหลากหลายที่ ซึ่งส่วนใหญ่ดูจะเป็นเด็กนักเรียน นักศึกษามากกว่าเป็นประชาชนธรรมดา กระแสความนิยมในทีมยังต่ำมาก มีการวิจารณ์ไปในทางไม่ดีมากกว่าในทิศทางที่ดี ผู้คนในจังหวัดยังไม่คิดว่านี่คือทีมประจำจังหวัด นี่คือทีมของคนบุรีรัมย์ นี่คือทีมที่อยากจะมีส่วนร่วม ....
วันเวลาผ่านไป ความนิยมค่อยๆ เพิ่มขึ้น มีการพูดถึงในทิศทางที่ดี ผู้คนเริ่มสนใจกันมากขึ้น อยากจะเข้าไปเชียร์อยากจะเข้าไปชม จนทีมจากบุรีรัมย์เริ่มทะยานขึ้นสู่ความสำเร็จ ในระหว่างนั้นภาพความเปลี่ยนแปลงก็ชัดเจนขึ้น ในวันที่บุรีรัมย์ลงแข่ง ผู้คนในจังหวัดจะรวมใจกันสวมเสื้อทีมกัน มีการพูดถึงทีมคู่แข่ง มีการวิจารณ์ฟอร์มนักเตะต่างๆ สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุด คือกลุ่มแฟนบอลจากวัยรุ่ยกลายมาเป็นวัยต่างๆ ที่หลากหลาย พ่อค้า แม่ค้า ร้านค้า และประชาชนทั่วไป ผมเองเคยกลับไปบุรีรัมย์ในวันที่มีแข่ง ในระหว่างผมรอซื้อกาแฟอยู่ร้านข้างทาง วันนี้เจ้าของร้านทั้งลูกเด็กเล็กแดง สวมเสื้อบุรีรัมย์ ป้าคนขายมีการทักทายพูดคุยกันเรื่องเกมฟุตบอล ที่กำลังจะแข่งขันในอีกไม่กี่ชั่วโมง .....
ในวันนี้บุรีรัมย์มีสนามเป็นของตัวเอง เป็นสนามสวยงามมากๆ ที่สร้างอยู่บนพื้นที่ว่างเปล่าในอดีต เป็นสนามที่คนบุรีรัมย์ส่วนใหญ่ไม่เคยคิดเคยฝัน ในวันนี้คุณเนวินได้รับความนิยมจากคนบุรีรัมย์ ผู้คนที่เคยเกลียดชังกลับมาให้การสนับสนุน ทัศนคติที่มีต่อคุณเนวินมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ภาพในอดีตของอดีตนักการเมืองดังที่โลดโผนในวงการเมือง ถูกเปลี่ยนเป็นเจ้าของทีมที่ทุ่มเทเพื่อสโมสร และในอนาคตยังจะมีโรงแรม มีสนามแข่งรถเพิ่มเข้ามา ซึ่งจะทำให้จังหวัดบุรีรัมย์เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ....
เมื่อคืนนี้บุรีรัมย์แข่งกับยอดทีมจากอิหร่าน ไม่น่าเชื่อว่า ในบ้านผมเอง น้องชายที่ไม่เคยสนใจกีฬาประเภทนี้ พี่สาวที่ไม่คิดจะดูฟุตบอล รวมใจกันเชียร์จากคนละที่ พูดได้เชียร์กันทั้งบ้าน ทุกคนมีเสื้อทีมของบุรีรัมย์ และทุกวันนี้พี่สาวผมที่ไม่เคยคิดว่าจะสนใจในกีฬาประเภทนี้ สามารถจำชื่อนักบอลของบุรีรัมย์ได้ สามารถวิจารณ์เกมหรือพูดคุยกันในเรื่องฟุตบอลอย่างสนุกสนาน ....
ทุกวันนี้ผมคิดว่า คนบุรีรัมย์ส่วนใหญ่ รักทีมบุรีรัมย์ คนบุรีรัมย์ส่วนใหญ่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม คนบุรีรัมย์สนับสนุนทีม คนบุรีรัมย์ส่วนใหญ่มีความสุขกับการเชียร์ทีมบุรีรัมย์
ขอบคุณคุณเนวินที่สร้างทุกอย่างขึ้นมาจากความตั้งใจ หากความตั้งใจของคุณเนวินเป้นไปเพื่อคนบุรีรัมย์อย่างแท้จริงแล้ว ผมเชื่อว่าคนบุรีรัมย์จะสนับสนุนคุณเนวิวอย่างดีต่อไป .... ในวันนี้ผมเชื่อว่า ไม่มีใครลืมอดีตที่เป็นมาของคุณเนวิน แต่เขาเหล่านั้นจะจำสิ่งที่เป็นไปของคุณเนวินในอนาคต
ขอขอบคุณ ฟ้าสีหมอก
ภาพปลากรอบจากอินเตอร์เน็ตนะจ๊ะ