วันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาแถลงว่ามีผู้โดยสารที่เดินทางขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย พร้อมกับชายชาวโอมาน อายุ 75 ปี ที่ตรวจพบเชื้อเมอร์สรายแรกในประเทศไทย ขณะมารักษาอาการป่วยโรคหัวใจ โดยระบุว่ามีผู้โดยสารชาว จ.บุรีรัมย์ ที่เสี่ยงสัมผัสเชื้อ เนื่องจากนั่งใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายดังกล่าว โดยกำลังเร่งตามหาตัวนั้น ล่าสุดทราบตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวแล้ว เป็นหญิงสาว อายุ 38 ปี อยู่ ต.ยายแย้มพัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ แต่เมื่อเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าว พบเพียงแม่ อายุ 72 ปี และพี่ชาย อายุ 52 ปี แต่ไม่พบตัวหญิงสาวดังกล่าว
 เนื่องจากเมื่อช่วงเช้าได้มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ และจังหวัด เข้ามาตรวจสุขภาพร่างกายพร้อมวัดไข้ พร้อมรับตัวไปเพื่อสอบสวนโรคและกักตัวไว้ที่ห้องแยกโรค เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ ตามขั้นตอนเป็นเวลา 14 วัน
 
 
 จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในพื้นที่ แต่ก็ไม่พบตัวหญิงสาวดังกล่าว พบเพียงห้องแยกโรค ที่ทางโรงพยาบาลเตรียมไว้สำหรับแยกตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้อเท่านั้น  อย่างไรก็ตามจากการตรวจสุขภาพและวัดไข้หญิงสาวดังกล่าว เบื้องต้นไม่พบมีอาการไข้ผิดปกติแต่อย่างใด ขณะที่ครอบครัว ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้ตื่นตระหนกกับกรณีดังกล่าวเช่นกัน
 
 ด้านพี่ชาย บอกว่า น้องสาวไปทำงานกับเพื่อนที่ประเทศโอมาน ขากลับทราบว่าได้เดินทางมาในเที่ยวบินเดียวกันและนั่งใกล้กับชายที่ตรวจพบติดเชื้อโรคเมอร์สรายแรกในประเทศไทย แต่หลังจากเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ ก็ยังไม่พบมีไข้หรืออาการผิดปกติ ขณะที่ครอบครัวก็ไม่ได้กังวลอะไร ยังใช้ชีวิตตามปกติ แต่ก็อยากฝากถึงทางผู้เกี่ยวข้องว่า ไม่ควรที่จะนำกรณีน้องสาวมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน เนื่องจากตัวน้องสาวเพียงนั่งใกล้กับผู้ป่วยเท่านั้น ยังไม่ได้ยืนยันว่าติดเชื้อ ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับตัวน้องสาวและครอบครัวได้
 
 
ขอขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1434796114
Go to top