บุรีรัมย์- “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ” วัย 47 ปี เจ้าของฉายาขุนเข่าหน้าเปื่อย อดีตนักมวยดังบุรีรัมย์ ป่วยโรคปอดเรื้อรังมานานกว่า 4 ปี

ถูกหามส่งโรงพยาบาลด่วนหลังอาการทรุดแน่นหน้าอกหายใจติดขัด ล่าสุดส่งต่อเข้าพักรักษาที่ รพ.นางรอง ขณะนี้อาการยังหนักและอยู่ในความดูแลแพทย์ใกล้ชิด ขณะพี่สาววอนแฟนมวย ผู้ใจบุญช่วยเหลือ เผยรักษาตัวจนเงินหมด ไร้คนดูแล เมียเลิกรามากว่า 10 ปี

nampon2

วันนี้ (18 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนำพล สีจันทึก หรือ “หนองกี่ พาหุยุทธ” เจ้าของฉายาขุนเข่าหน้าเปื่อย อดีตนักมวยไทยชื่อดังชาว ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งล้มป่วยด้วยโรคปอดติดเชื้อเรื้อรังมานานกว่า 4 ปี จนมีสภาพร่างกายซูบผอมเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกซึ่งรักษามาอย่างต่อเนื่อง ได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลหนองกี่อย่างเร่งด่วน เมื่อวานนี้ ( 17 ก.ย.) หลังมีอาการแน่นหน้าอกหายใจติดขัดและอ่อนแรง ซึ่งทางแพทย์พยาบาลที่โรงพยาบาลหนองกี่ ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ แต่ผู้ป่วยมีอาการทรุดหนักเนื่องด้วยภาวะของโรคที่ป่วย

ล่าสุดทางโรงพยาบาลหนองกี่ ได้ส่งตัว“หนองกี่ พาหุยุทธ” มารักษาต่อที่โรงพยาบาลนางรอง อ.นางรองเนื่องจากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่พร้อมมากกว่า ทันทีที่ส่งตัวมาถึงเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วน ซึ่งขณะนี้ยังมีอาการหนักและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

นางสมพอ สัมผัสสิน อายุ 54 ปี พี่สาวของนำพล อดีตนักมวยดัง บอกว่า ที่ผ่านมาช่วงที่น้องชายป่วย ตนและสามีช่วยกันดูแลทั้งการพาไปรักษา เรื่องอาหารการกินมาโดยตลอด โดยน้องชายได้ล้มป่วยด้วยโรคปอดเรื้อรังมากว่า 4 ปีแล้ว เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ทำให้เงินเก็บที่น้องชายได้จากการชกมวยทยอยหมดไปกับการรักษาตัวเอง ทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ

กระทั่งล่าสุดน้องชายมีอาการทรุดหนักเนื่องจากแน่นหน้าอกหายใจติดขัด จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยนำส่งโรงพยาบาล จึงอยากวิงวอนแฟนมวยหรือผู้ใจบุญช่วยเหลือเพราะตอนนี้น้องชายไม่มีรายได้อะไรเพราะเลิกชกมวยมานานแล้ว
nampon1
สำหรับ ประวัติ “นำพล หนองกี่พาหุยุทธ” เป็นอดีตนักมวยที่มีฝีไม้ลายมือไม่เป็นรองใคร จนถูกยกให้เป็น “ยอดมวย” ที่โด่งดังมากในช่วงปี 2530-2534 ซึ่งนำพลคว้าแชมป์มานับไม่ถ้วน ทั้งปะทะกับนักมวยในประเทศและต่างประเทศ ถือเป็นสุดยอดนักมวยไทยคนหนึ่ง ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้คนทั่วโลกได้รู้จักศิลปะของแม่ไม้มวยไทย และทำให้ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์บ้านเกิดของเขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน

แต่หลังจากล้มป่วยด้วยโรคปอด จึงกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านพักของตัวเอง ที่บ้านเลขที่ 37 ม.8 ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มากว่า 4 ปีแล้ว ส่วนภรรยาได้เลิกรา กันกว่า 10 ปีแล้ว

Go to top