ความพ่ายแพ้ 1-6 ของ “กิเลนผยอง” เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีต่อทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่างประจวบฯ ทำให้หลังจากแข่งขันไปแค่ 5 นัด พวกเขาถูกบุรีรัมย์ ทีมแชมป์เก่าทิ้งห่างถึง 6 คะแนนเข้าไปแล้ว
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ฟุตบอลไทยลีกในยุคนี้ หากจะมีทีมใดก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ลีกกับบุรีรัมย์ ก็คงมีแค่เมืองทองฯ ที่ใกล้เคียง ส่วนทีมอื่น ๆ อย่างแบ็งค็อก เชียงราย ยังไม่แข็งแกร่งพอ ฤดูกาลนี้ที่ดูดีก็มีท่าเรือกับสุโขทัย แต่ก็ยากที่จะเชื่อได้ว่าทั้งสองทีมนั้นสามารถทำคะแนนขับเคี่ยวกับลูกทีมของนายใหญ่เนวินได้จนถึงช่วงท้ายฤดูกาล
การเสียกำลังหลักไปเล่นต่างแดนถึง 4 คนของเมืองทองฯ (ชนาธิป, ธีรศิลป์, ธีราทร และกวินทร์) ทำให้ขุมกำลังของพวกเขาอ่อนลงไปมาก แข่ง 5 นัดพวกเขาเพิ่งมีแค่ 7 คะแนน รั้งอยู่ในอันดับ 10 ของตาราง แถมกุนซือธชตวัน ศรีปาน ยังเพิ่งจะยื่นซองขาวขอลาออกไปสด ๆ ร้อน ๆ หลังจากพาทีมบุกไปแพ้ประจวบฯ ด้วยสกอร์ขาดลอยถึง 1-6
ผู้เล่นในทีมกำลังสูญเสียความมั่นใจ ส่วนแฟนบอลของกิเลนผยองก็กำลังเสียความเชื่อมั่นและความศรัทธาที่มีต่อทีมรักของพวกเขา การโดนทำประตูทิ้งห่างในเกมนั้น บวกกับเห็นการเล่นของทีม ทำให้แฟนบอลที่นั่งชมเกมอยู่ทางบ้านปิดทีวีประหยัดไฟไปตั้งแต่ครึ่งแรก
ส่วนทางด้านบุรีรัมย์ ถึงแม้นัดล่าสุดพวกเขาจะเก็บเพิ่มได้เพียงแค่ 1 คะแนน แต่นั่นเป็นการไปเยือนแบ็งค็อก ยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นทีมระดับหัวตารางด้วยกัน ดังนั้นการได้ 1 คะแนนกลับบ้านก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายสักเท่าไรนัก และถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีคะแนนนำหน้าทีมอันดับ 2-4 อยู่เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น
แต่ก็ไม่ได้ทำให้บุรีรัมย์รู้สึกหวั่นใจได้มากนัก ตราบใดที่พวกเขายังมีแต้มทิ้งห่างเมืองทอง เชียงราย และแบ็งค็อก แต่ความจริงแล้ว คู่แข่งที่น่ากลัวของพวกเขาในปีนี้ดูเหมือนจะเป็นทีมท่าเรือของมาดามแป้ง ที่กำลังทำผลงานได้ดีในฤดูกาลนี้ เกมรับเหนียวขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก ส่วนเกมรุกก็อันตรายจากการทุ่มซื้อดราแกน บอสโควิชเข้ามาเป็นสถิติสโมสร ดังนั้นบุรีรัมย์จะคิดว่าการคว้าแชมป์ในปีนี้จะง่ายกว่าที่แล้วมาไม่ได้เด็ดขาด เพราะคู่แข่งของพวกเขาไม่ได้มีแค่เมืองทองฯ แค่ทีมเดียว
ขอขอบคุณภาพจาก https://www.facebook.com/BuriramUnitedFC/