แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยว ประจำเดือนมิถุนายน
 
กลับมาพบกับสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำประจำเดือนอีกเช่นเคย เดือนนี้อาจมาช้าหน่อย แอดมินต้องขออภัยด้วย แต่รับรองว่าทุกแห่งในเดือนนี้ สุดยอดไม่แพ้กันเลย แอดมินคัดสรรมาอย่างดีเพื่อนักท่องเที่ยวทุกท่าน พบกับแหล่งท่องเที่ยวในช่วงต้นฤดูฝน ท้องฟ้าสวย หมอกจาง ๆ กับทิวทัศน์ฟิน ๆ ในช่วง แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยว ประจำเดือนมิถุนายน ไปชมกันเลยครับ
แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยว ประจำเดือนมิถุนายน
 
10 สถานที่ท่องเที่ยว ประจำเดือนมิถุนายน
 
1. เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา จ.สระแก้ว
เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา
เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา จะจัดขึ้นในช่วงเดือน มิถุนายน – สิงหาคม ของทุกปี เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด และเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น สำหรับอุทยานแห่งชาติปางสีดานั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังอุดมสมบูรณ์ ทำให้มีผีเสื้อต่าง ๆ มากกว่า 500 ชนิด และพบเห็นทั่วไปเป็นฝูงใหญ่ สร้างความตื่นตาตื่นใจกับนักท่องเที่ยว และผู้ที่นิยมถ่ายภาพเป็นอย่างมาก ช่วงเวลาที่เหมาะในการชมผีเสื้อ คือช่วง 08.00-12.00 น.
 
2. เขาล้อมหมวก จ.ประจวบคีรีขันธ์
เขาล้อมหมวก
จุดชมวิวเขาล้อมหมวก เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่คุณห้ามพลาด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว ที่รักสัตว์และชื่นชอบการผจญภัย เนื่องจากที่เขาล้อมหมวกมีจุดปีนเขาที่ท้าทายและยังมีสถานที่อนุรักษ์ค่างแว่นแสนน่ารัก ที่มีอยู่จำนวนมาก เขาล้อมหมวกอยู่ในเขตของพื้นที่กองบิน 53 การเดินทางนั้นจะต้องเข้าไปภายในกองบิน 53 แล้วจะมีทางแยกไปเขาล้อมหมวกก่อนที่จะถึงอ่าวมะนาว เมื่อเลี้ยวเข้าทางแยกในกองบินก็ให้ขับตรงไปจนถึงตีนเขา โดยสามารถจอดรถที่บริเวณนี้ จากนั้นก็จะพบกับศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเวลา 8.00 น. – 18.00 น. โดยระยะเวลาในการพิชิตเขาล้อมหมวกอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง รับรองว่าถูกใจนักท่องเที่ยวขาลุยแน่นอน
 
3. ทุ่งดอกเปราะภูขาว ภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก
ดอกเปราะภูขาว
 
“ดอกเปราะภูสีขาว” ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะผลิบานต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเริ่มต้นฤดูฝน แต่ว่าช่วงที่ดอกเปราะภูสีขาวสวยที่สุดคือปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งดอกเปราะภูสีขาวจะพร้อมใจกันเบ่งบานไปทั่วทุ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ภาพความงดงามของดอกเปราะภูสีขาว มีกลีบดอกที่ชูช่ออยู่ทั่วบริเวณตัดกับสีเขียวของใบหญ้าที่ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำฝน เป็นภาพที่ดูแล้วสร้างความสดชื่น เย็นตา สบายใจเป็นอย่างมาก
 
สอบถามยามดอกไม้บาน ได้ที่ : อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โทร. 0 5535 6607 , 08 1596 5977
 
4. วัดจมน้ำ สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
วัดจมน้ำ
 
วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็น Unseen Thailand เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ตั้งแต่ประมาณเดือนมีนาคม – มิถุนายน เป็นช่วงหน้าแล้ง น้ำจะลดลงมาก จะสามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ ส่วนคนที่มาเที่ยวช่วงปลายฝนจนถึงฤดูหนาว ตั้งแต่ประมาณกันยายน – มกราคม อาจจะได้เห็นแค่บางส่วนของตัวโบสถ์ที่โผล่พ้นน้ำ หรือบางทีก็จมน้ำเป็นเมืองบาดาล จะมีให้เห็นก็เพียงแต่ยอดหอระฆังเดิมเท่านั้นที่สูงพ้นน้ำเท่านั้น
 
5. เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี
เขื่อนเชี่ยวหลาน
 
เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก อยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดสุราษฏร์ธานี ประมาณ 84 กิโลเมตร เป็นภูเขาหินปูนทียอดเขาตั้งฉากกับผืนน้ำสีเขียวมรกต พื้นที่แห่งนี้ได้รับสมญานามว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” ในช่วงเช้า คุณจะได้พบกับไอหมอก ทอดยาวตัดกับพื้นน้ำและขุนเขาอันเขียวสด แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เขื่อนเชี่ยวหลาน มีที่พักในรูปแบบแพ คอยให้บริการอยู่หลายแห่ง คุณจะได้ซึมซับกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด สงบ ไม่วุ่นวาย เหมาะสำหรับการพักผ่อน
 
6. อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
แก่งกระจาน
 
อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน หรือ เขื่อนแก่งกระจาน มีพื้นที่ 46.5 ตารางกิโลเมตร มีความจุ 710 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและเหมาะแก่การพักผ่อนแบบแคมป์ปิ้ง หรือผู้ที่ชื่นชอบการตกปลา ก็สามารถเข้ามาตกปลาได้ ลักษณะการพักผ่อนแบบสบาย ๆ นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเขื่อนแก่งกระจาน ยังมีรีสอร์ทและที่พักให้เลือกมากมาย บางที่ยังมีกิจกรรมผาดโผนเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกีฬาหรือกิจกรรมประเภทนี้ด้วย
 
7. ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์
ภูทับเบิก
 
ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร ซึ่งเป็นจุดสูงสุดเพชรบูรณ์ ภูมิประเทศมีความงดงามอย่างมาก เต็มไปด้วยทะเลภูเขา ป่าไม้และธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธ์ เย็นสบายตลอดปี แต่ถ้ามาในหน้าฝน คุณจะมีโอกาสได้พบกับทะเลหมอกสุดอลังการ ในตอนเช้ามีหมอกและกลุ่มเมฆตัดกับยอดภูสีเขียวสวยงาม และยังเป็นเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกด้วย คนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ รับรองว่าจะต้องติดอกติดใจจนไม่อยากกลับบ้านเลยล่ะ
 
8. จุดชมวิวห้วยคอกหมู สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
ห้วยคอกหมู
 
จุดชมวิวห้วยคอกหมู สุดเขตแดนตะวันตก ตั้งอยู่ที่ ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สูงจากระดับน้ำทะเล 800 เมตร เป็นพื้นที่ของฐานปฏิบัติการร้อย ตชด.137 ตั้งอยู่บนภูเขาสูง เป็นพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเมียนมาร์ มีแนวสันปันน้ำเบื้องล่างเป็นเขตแดน บนจุดชมวิวห้วยคอกหมู นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นภูมิประเทศอันสวยงามของเทือกเขาตะนาวศรี เมื่อมองข้ามไปในฝั่งพม่าจะเห็นต้นไม้ใหญ่และป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ มีนกนานาชนิดมากมาย ในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว จะมีหมอกปกคลุมหนาแน่น ดุจดั่งทะเลหมอก และในวันท้องฟ้าโปร่ง ที่จุดชมวิวห้วยคอกหมูนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่งดงามอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยไม่แพ้ภาคเหนือเลยทีเดียว
 
9. หาดทรายดำ แหลมงอบ จ.ตราด
แหลมงอบ
 
หาดทรายดำ ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นจากระบบนิเวศของธรรมชาติ ปัจจุบันมีเพียง 5 แห่งในโลก ซึ่งหนึ่งในห้านั้นก็ ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแหลมมะขาม อำเภอแหลมงอบ จ.ตราด ดินแดนภาคตะวันออกของประเทศไทย หาดทรายดำหรือหาดหัวสวน แห่งนี้ มีความเชื่อกันว่า หาดทรายดำสามารถรักษาโรคได้ เพียงแค่ไปนอนหมกตัวอยู่ในทราย ด้วยความเชื่อนี้ทำให้เกิดเสียงเล่าลือกันไปต่าง ๆ นา ๆ จนทำให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวต่างแห่แหนกันมาที่หาดทรายดำกันมากขึ้น
 
10. เทศกาลผีตาโขน จ.เลย
ผีตาโขน
 
เทศกาลผีตาโขน เทศกาลของไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก จะจัดขึ้น ณ วัดโพนชัยและหน้าที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย พบกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่าง อาทิ การร่วมชมขบวนแห่ขบวนผีตาโขน, การประกวดหน้ากากผีตาโขน, การประกวดผีตาโขนน้อย, การแสดงของชุมชนต่าง ๆ, ฟังเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์, การออกร้านของส่วนราชการ-เอกชน ,การแสดงสินค้าพื้นเมือง , การจำหน่ายสินค้า OTOP, การแข่งขันจุดบั้งไฟ พร้อมชมขบวนพาเหรดที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน 2558 อีกด้วย
 
 
 
 
 
ขอขอบคุณ เรื่องและเรียบเรียงโดย : Travel MThai

ข้อมูลและรูปภาพจาก : thai.tourismthailand.org , www.chilldtravel.com , facebook.com/baagklong

Go to top