ทะเลหมอกหน้าฝนจากจุดชมวิวภูทับเบิก งดงามเหมือนฝัน (ภาพจากเฟสบุคแฟนเพจ : Chanomworld)
 
ในช่วงฤดูฝน สายฝนที่โปรยปรายลงมาสู่พื้นดินนอกจากจะคืนความชุ่มชื้นเขียวขจีให้ป่าเขา และช่วยปลุกพืชพรรณต่างๆ ที่หลับใหลอยู่ในดินให้ฟื้นคืนชีวิตแล้ว ในช่วงนี้ยังถือเป็นกรีนซีซั่น (Green Season) หรือ “ฤดูแห่งความเขียวขจี” ทางการท่องเที่ยว ที่สวยมีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูอื่นๆ 
“ทะเลหมอกหน้าฝน” เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ในช่วงกรีนซีซั่นที่มีความงดงามไม่แพ้ทะเลหมอกหน้าหนาวเลย ซึ่งแม้จะเป็นทะเลหมอกเหมือนกัน แต่ส่วนที่ต่างก็คือ ทะเลหมอกหน้าหนาวจะขาวนวลฟูฟ่องล่องลอยเป็นปุยท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ส่วนทะเลหมอกหน้าฝนจะลอยขาวหม่นระคนละอองไอฝน ท่ามกลางความชุ่มชื้นของอากาศและความเขียวขจีของบรรยากาศรอบๆ เรียกได้ว่าในฤดูที่แตกต่าง ยังมีเสน่ห์ความงามอันแตกต่างของทะเลหมอกแฝงอยู่ในนั้น
 
       หลังฝนขาดเม็ด ลองหลับตานึกถึงกลิ่นฝนและไอดินหอมๆ อากาศอันสดชื่นเย็นสบาย เต็มไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ และกลุ่มหมอกสีขาวลอยเรี่ยริมไหล่เขา แค่นึกก็อยากจะไปยืนอยู่ในบรรยากาศอย่างนั้นเสียจริงๆ และสำหรับใครที่อยากไปเห็น ในวันนี้เราก็มีจุดชมทะเลหมอกหน้าฝนในสถานที่ต่างๆ มาแนะนำให้ไปเที่ยวชมกัน 5 แห่งด้วยกัน 
 
ทะเลหมอกจากจุดชมวิวหน้าที่ว่าการอำเภอเขาค้อ (ภาพจากเฟสบุคแฟนเพจ : Chanomworld)
 
 
เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
 
       พูดถึงทะเลหมอกหน้าฝน ต้องนึกถึง “เขาค้อ” เป็นแห่งแรก
 
เขาค้อ เป็นดินแดนแห่งเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนของเทือกเขาเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ในเขต อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าหนาวเนื่องจากอากาศหนาวเย็นและมีทะเลหมอกสวยงาม ส่วนช่วงหน้าฝนนี้ถือเป็นช่วงนาทีทองของเขาค้อก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะได้ชมหมอกฝนที่งดงามไม่แพ้กันแล้ว ราคาที่พักยังถูกกว่าตอนหน้าหนาว ไม่ต้องจองล่วงหน้านานนับเดือน และมีความเงียบสงบน่าเที่ยวอีกด้วย
 
       เนื่องจากเขาค้อมีลักษณะของพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ มีอ่างเก็บน้ำรัตนัยเป็นแหล่งกำเนิดความชื้น จึงมีโอกาสที่จะได้ชมทะเลหมอกค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในยามเช้า หรือหลังฝนตก ไม่ว่าจะเป็นที่บริเวณ “จุดชมวิวเขาค้อ” ซึ่งอยู่ริมถนนสาย 2196 ซึ่งเป็นจุดชมวิวหลักของเขาค้อ 
รวมถึงบริเวณใกล้กับที่ว่าการอำเภอเขาค้อ ไปรษณีย์เขาค้อ และที่พักรีสอร์ทต่างๆ ในบริเวณนี้ที่ตั้งอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัยก็สามารถชมทะเลหมอกได้สวยงามเช่นกัน “จุดชมวิวเขาตะเคียนโงะ” เนินเขาขนาดย่อมบนถนนสาย 2258 (รถยนต์ขึ้นถึง) บนจุดชมวิวนี้สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา มองเห็นยอด “ภูเขาย่า” ยอดเขาสูงสุดแห่งเขาค้อได้อย่างชัดเจน ควบคู่ไปกับวิวทิวทัศน์บริเวณรอบข้างอันสวยงามกว้างไกล 
 
จุดชมวิวเขาตะเคียนโงะ (ภาพจากเฟสบุคแฟนเพจ : Chanomworld)
 
 
 
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเมื่อมองจากร้านกาแฟ Pino Latte(ภาพจากเฟสบุคแฟนเพจ : Chanomworld)
 
 
 
“จุดชมวิววัดกองเนียม” ตั้งอยู่ริมถนนสาย 2196 ใกล้กับหอสมุดนานาชาติเขาค้อ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม “จุดชมวิวบริเวณร้านกาแฟ Pino Latte” ใกล้กับถนนสาย 12 ถือเป็นจุดชมวิวน้องใหม่มาแรงที่ไม่ควรพลาด เพราะจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วได้อย่างสวยงามมากทีเดียว หรือจะขึ้นไปไหว้พระที่วัดและชมทิวทัศน์หรือถ้าโชคดีก็จะได้ชมทะเลหมอกจากที่วัดได้ด้วยเช่นเดียวกัน
 
       นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวอีกหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวริมถนนหมายเลข 12 หรือตามรีสอร์ทต่างๆ ในเขตอำเภอเขาค้อก็สามารถชมทะเลหมอกหน้าฝนได้สวยงามเช่นเดียวกัน 
 
ปุยหมอกคู่กับไร่กะหล่ำที่ภูทับเบิก(ภาพจากเฟสบุคแฟนเพจ : Chanomworld)
 
 
 
ภูทับเบิก-ภูแผงม้า จ.เพชรบูรณ์
“ภูทับเบิก” ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า มีสภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน มีทัศนียภาพอันสวยงามกว้างไกลในรูปแบบทะเลภูเขา บนภูทับเบิกมีอากาศเย็นสภาพตลอดทั้งปี เพราะตั้งอยู่บนพื้นที่ร่องลมเย็นของเทือกเขาหิมาลัย นอกจากนั้นภูทับเบิกยังถือเป็นจุดสูงสุดของเมืองเพชรบูรณ์อีกด้วย (1,768 เมตรจากระดับน้ำทะเล)
 
       สำหรับจุดชมทะเลหมอกของภูทับเบิกมีจุดชมวิวหลักอยู่ที่ "อาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิ" (จุดชมวิวภูทับเบิก) หรือจุดชมวิวปรอทยักษ์ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเมืองมะขามหวาน มีลานกว้างสำหรับชมวิวได้กว้างไกล มองลงไปจากจุดสูงสุดจะเห็นไร่กะหล่ำปลีกว้างใหญ่ไพศาล เป็นดังภูเขากะหล่ำที่เป็นจุดเด่นของภูทับเบิก มองเห็นทะเลภูเขาและบ้านเรือนของชาวบ้านเบื้องล่าง และในวันที่ฟ้าฝนเป็นใจ ก็จะได้ชมทะเลหมอกหน้าฝนอันงดงามเหมือนฝันลอยอ้อยอิ่งให้เราได้ชื่นชมกัน
 
       ไม่ไกลจากปากทางเข้าสู่บ้านทับเบิก เป็นทางเข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งมี “จุดชมวิวภูแผงม้า” เป็นอีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกหน้าฝนชั้นเยี่ยม แต่ทางเข้าสู่จุดชมวิวระยะทางราว 1 ก.ม. เป็นทางลูกรังที่ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น ทิวทัศน์บนจุดชมวิวสามารถมองไปได้กว้างไกล สวยงามไม่แพ้ที่ไหน 
 
ทะเลหมอกหน้าฝนที่ม่อนแจ่ม
 
 
 
ม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่
 
“ม่อนแจ่ม” แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของ “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย” หรือ “โครงการหลวงหนองหอย” ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย
 
“ม่อนแจ่ม” หรือ “ดอยม่อนแจ่ม” (ตำบลโป่งแยง) มีสภาพพื้นที่เป็นแนวสันเขา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,350 เมตร ที่นี่เป็นจุดชมวิวบนภูเขาที่ไม่ไกลจากเมืองเชียงใหม่มากนัก สามารถเดินทางได้สะดวก จึงมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมารับอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่นี่เป็นจำนวนมากในช่วงฤดูหนาว 
 
สูดอากาศสดชื่นไปพร้อมกับชมภาพที่สวยงาม
 
 
 
แปลงปลูก“เวอร์บีน่า”กำลังออกดอกบานสะพรั่งที่ม่อนแจ่มขณะนี้
 
 
 
แต่ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ม่อนแจ่มก็มีเสน่ห์ไม่น้อย จากจุดชมวิวมองลงไปจะเห็นทิวทัศน์อันเปี่ยมเสน่ห์ มองเห็นหมู่บ้านและแปลงปลูกผักแบบขั้นบันไดไต่ไล่ระดับไปตามแนวขุนเขาอย่างสวยงาม ส่วนจุดชมวิวอีกด้านหนึ่งทางฝั่งร้านอาหาร ในวันที่ฟ้าเปิดสามารถมองเห็นดอยหลวงเชียงดาวตั้งตระหง่านได้อย่างชัดเจน หรือหากเป็นในวันที่มีฟ้าฝนเป็นใจก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกมีความสวยงามไม่เป็นรองใคร
 
       นอกจากจะได้ชมทะเลหมอกหน้าฝนในช่วงนี้แล้ว ตอนนี้ก็กำลังมีไม้ดอกไม้ประดับหลากสีสันสดใส โดยเฉพาะแปลงปลูก “ดอกเวอร์บีน่า” สีม่วงอ่อนสะพรั่งสวยงามเป็นจุดดึงดูดชวนให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก 
 
ปุยหมอกที่บ้านนอแล
 
 
 
ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่
 
“ดอยอ่างขาง” หรือ “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ใน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อของเมืองไทย โดยเฉพาะในฤดูหนาว และยังถือเป็นโครงการหลวงแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย จากเดิมที่เป็นดอยหัวโล้นและแปลงปลูกฝิ่น ดอยอ่างขางได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นแปลงพืชผักผลไม้เมืองหนาวอันอุดมสมบูรณ์ และมากไปด้วยทัศนียภาพอันงดงาม ทั้งจากสภาพธรรมชาติ แปลงพืชผัก โรงเรือน และสวนประดับตกแต่งต่างๆ ภายในสถานี
 
       สำหรับจุดท่องเที่ยวสำคัญบนดอยอ่างขางนั้นอยู่ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ที่ภายในประกอบด้วยสิ่งน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแปลงปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาว,สวนบอนไซ,โรงเรือนไม้ดอก,สวนบ๊วย,โรงเรือนรวมพันธุ์ผักเมืองหนาว,สวนไม้ดอกกลางแจ้ง,สวนกุหลาบอังกฤษ, สวนแปดสิบ 
 
แปลงเกษตรบ้านนอแลยามเช้า
 
 
 
ส่วนนอกสถานีเกษตรฯ ก็ยังมีจุดชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกอันสวยงามอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวกิ่วลม จุดชมวิวชายแดนไทย-พม่า จุดชมวิวขอบด้ง และที่บ้านนอแล ซึ่งมีไร่สตรอว์เบอร์รี่และแปลงเกษตรพืชผักเมืองหนาวที่ปลูกลดหลั่นกันไปตามไหล่เขา จุดชมวิวเหล่านี้ในหน้าฝนก็สามารถชมทะเลหมอกหน้าฝนได้งดงามไม่แพ้กัน 
 
บรรยากาศในเขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติเขาสก
 
 
 
เขื่อนรัชชประภา อช.เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี
 
       ทะเลหมอกหน้าฝนใช่ว่าจะมีแต่ภาคเหนือ คราวนี้พาลงใต้ มาที่ “เขื่อนรัชชประภา” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ที่แม้จะไม่มีหมอกหนาเป็นปุยเหมือนทะเลอย่างทางภาคเหนือ แต่ก็สวยงามได้บรรยากาศไม่น้อย
 
       การท่องเที่ยวในเขื่อนจะอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเที่ยวแบบเช้า-เย็นกลับ นั่งเรือเที่ยวชมความสวยงามภายในเขื่อน หรือเที่ยวแบบพักค้างแรมก็ได้ ซึ่งในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภาจะมีแพที่พักไว้ให้บริการทั้งของอุทยานฯ และของเอกชน 
สายหมอกลอยอ้อยอิ่งตามไหล่เขา
 
 
 
ระหว่างการนั่งเรือชมวิวภายในเขื่อนนี้ หากสภาพอากาศเป็นใจ ก็จะได้ชมหมอกฝนที่ไหลเรี่ยคลอเคลียอยู่กับภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ ฟ้าหมาดฝนทำให้อากาศเย็นสดชื่นสบายกาย ได้สัมผัสกับทัศนียภาพความงดงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้น ส่วนผสมของท้องฟ้า สายหมอก ภูเขา และผืนน้ำสีเขียวใส ผสมผสานกันอย่างลงตัว นับเป็นอีกหนึ่งความงามในหน้าฝนที่อยากให้ลองไปชมกัน
 
 
 
 
 
 
 
ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ 
 
Go to top