ผีโรงแรม จ.ตราด

อาชีพบรรณาธิการ ขีดเส้นใต้ให้ชีวิตของผมต้องได้เดินทาง ไปทุกที่ ทุกทาง ที่โจทก์ผู้มีอุปการคุณทั้งหลายกรุณาเลือกฟ้องหรือแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทในพื้นที่ห่างไกล โรงแรมทั้งเล็ก ทั้งใหญ่ ทั้ง ๔ - ๕ ดาว และไร้ดาว จึงเป็นที่พักแรมคล้ายบ้านหลังที่ ๒ หัวถึงหมอน ก็หลับใหลง่ายดาย ไม่รู้สึกแปลกถิ่น แปลกที่ หากแต่บางราตรีแม้ข่มใจให้หลับ ก็มิอาจหลับตาได้

วันหนึ่ง มีนัดส่งตัวที่สำนักงานอัยการจังหวัดตราด ในคดีที่บริษัทxxxxxxxxx จำกัด (มหาชน) เป็นผู้กล่าวหาในเช้าวันศุกร์ ระยะทางจากกรุงเทพถึงตราดใช้เวลาเดินทางราว ๔ - ๕ ชั่วโมง เสร็จจากงาน บ่ายเย็นวันพฤหัส ผมก็เดินทางไปทันที กว่าจะถึงก็ดึกดื่น จังหวัดตราด ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว แต่ที่พักมีระดับและดูวางใจได้ จะอยู่นอกเมือง ในตัวเมืองมีเพียงโรงแรมxxxxxx โรงแรมเก่าแก่อายุราวกึ่งศตวรรษเท่านั้น ที่รอต้อนรับอาคันตุกะที่มาเยือนยามวิกาล

โรงแรมxxxxxxxxxxxxxxตั้งอยู่ใจกลางเมือง เป็นตึกแถวเก่าคร่ำคร่า สูง x ชั้น ตั้งขนานไปกับxxxxxxxxxxxxx

นี่เป็นสถานที่ที่ผมต้องเลือกเป็นที่ค้างแรมราตรีนั้น โดยไม่อิดเอื้อน ขอเพียงพักกายสักราตรี เพื่อวันรุ่งขึ้นจะได้เดินทางไปยังสถานที่ทำการอัยการซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

หลังจากลงชื่อเข้าพักแล้ว ลิฟท์อายุคราวปู่ ก็ดึงผมขึ้นไปบนชั้นสามของโรงแรมท่ามกลางเสียงสลิงเสียดสีกันอื้ออึง ราวจะขาดผึงไปในนาทีนั้น บ๋อยหิวกระติกน้ำใส่น้ำแข็งเดินตามมา เปิดห้องขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า เล็กๆ แล้ววางตั้งกระติกนั้นไว้ที่ปลายเตียงไม้โบราณ

"มีอะไร ก็เรียกนะครับพี่ "

บ๋อยบอก ก่อนเปิดประตูเดินออกไป ทิ้งความสงัด วังเวง ไว้เป็นเพื่อนผม

กระติกน้ำแข็งพลาสติกสีแดงคล้ำใบนั้น คือตู้เย็นประจำห้องนี้ เมื่อเข้าคู่กับโทรทัศน์ชนิดใช้มือบิดหาช่อง ไม่ปรากฎสัญชาติ ภาพจางจนต้องเดามากกว่าดู ผนังห้องสีลอกเป็นริ้ว หยากไย่จับเพดานแผ่นหนา ห้องหับคืนนี้ จึงนับว่ามีความน่าสะพรึงกลัวเข้าครอบครองอยู่ทุกอณูแล้ว

ผมพยายามเปิดหน้าต่าง 2 บาน ข้างเตียงนอน อย่างน้อยมีสายลมโชย และเสียงผู้คนเบื้องล่าง เล็ดรอดเข้ามาเป็นเพื่อนบ้าง แต่หลังหน้าต่าง 2 บานนั้น กลับมีแต่ความทึบของผนังตึกอีกหลังหนึ่งประจันหน้าอยู่

เมื่อชีวิตไม่มีทางเลือกอื่นอีก นอกจากนอนให้หลับ แล้วลุกขึ้นไปปฎิบัติภารกิจให้ทันในตอนเช้า ผมก็ล้มตัวลงนอนบนหมอน และที่นอนสีขาวหม่น กลิ่นหืนคล้ายซากของเน่าเสีย คล้ายจะหลับได้ง่ายดายเหมือนหลายราตรีที่ผ่านมา แต่คืนนี้กลับแปลกไป

ในความสงัดเงียบนั้น มีเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินไป-มา อยู่หน้าห้องตลอดเวลา เสียงน้ำจากก๊อกในห้องน้ำที่เหมือนวงแหวนชำรุด ไหลหยด ติ๋งๆ แต่บางจังหวะก็ไหลซู่ ได้ยินชัดถนัดหูโดยไม่รู้สาเหตุ คืนนั้นทั้งคืน ผมรู้สึกตลอดเวลาว่า มีคนอีกคนหนึ่งอยู่ ณ ที่นั้นด้วย แม้จะเปิดไฟสว่างจ้าทั้งคืน แต่ก็ไม่อาจขับไล่ความหวาดกลัวออกไปจากใจได้

จนกระทั่งวันใหม่ คืบคลานเข้ามา ผมรีบลุกจากเตียงที่เพียงอาศัยนอน แต่ไม่ได้หลับตาลงเลย ออกไปจากห้องอันทึบทะมีนนั้น และไม่ได้สนใจไถ่ถามเรื่องราวของโรงแรมจากใครเลย จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมอ่านข้อเขียนของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ในผู้จัดการ ซึ่ง ดร.ธรณ์ เล่าว่า โรงแรม xxxx แห่งนี้ ขึ้นชื่อว่าผีดุนัก

คืนนั้น ผมอาจจะเจอใครสักคน ที่มาเสียชีวิตที่นี่ เธอหรือเขาคงเหงาและต้องการเพื่อน แต่ผมไม่ต้องการเพื่อน เพื่อนผมมีมากพอแล้ว

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/chakkrish/2008/09/15/entry-4

Go to top